วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรียนวิชาลูกเสือแล้วได้อะไร

เรียนวิชาลูกเสือแล้วได้อะไร
ลูกเสือไทยกำเนิดขึ้นมาแล้ว 100 ปี โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรีได้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2454
หลายคนเคยสงสัยหรือมีข้อกังขาเกี่ยวกับวิชาเรียนที่ถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับของประเทศไทย ที่เรียกวิชานั้นว่า ลูกเสือโดยบางคนเริ่มเรียนวิชาลูกเสือตั้งแต่ชั้นป.1 – ม.3 นับระยะเวลาได้ก็ร่วม 9 ปี หากถามว่า 9 ปีที่ผ่านพ้น การเรียนวิชาลูกเสือแล้วสร้างอะไรให้กับผู้เรียนได้บ้าง ให้ลองนึกกันเล่นๆ อาจจะไม่ใช่วิชาที่สลักสำคัญมากนัก เพราะไม่มีเกรดแต่หากไม่เรียนก็ไม่สามารถจบได้
บางคนอาจจะจำภาพที่ต้องมานั่งแต่งเครื่องแบบลูกเสือ ที่ดูพะรุงพะรัง มีผ้าผูกคอ หมวก เข็มขัด ฯลฯ รวมถึงเครื่องหมายต่างๆ ที่ต้องติดโชว์ในเครื่องแบบ ถ้าหากวันไหนแต่งตัวพลาดไปอาจจะถูกลงโทษในวิชาเรียนก็เป็นไปได้
บางคนอาจจะจำการผูกเงื่อนพิรอด เงื่อนขัดสมาธิ เงื่อนบ่วงสายธนู เงื่อนตะกรุดเบ็ด เงื่อนกากบาท กิจกรรมรอบกองไฟในยาม เข้าค่ายการเดินทางไกล การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ได้ร้องเพลง ฝึกการแสดง




 


ทำไมเด็กไทยต้องเรียนลูกเสือ?
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมจึงต้องเรียนวิชาลูกเสือ และวิชานี้มีความสำคัญมากมายขนาดไหน จึงต้องถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน
สมมาต สังขพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาลูกเสือและบุคลากร สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ บอกเล่าถึงหัวใจสำคัญของการเรียนลูกเสือ ก่อนจะไขข้อสงสัยที่เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจดูแคลนการเรียนลูกเสือ ทำนองว่า จะเรียนไปทำไม เรียนแล้วได้อะไร เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิตทั้งอธิบายเพิ่มเติมว่าในยุคที่ค่านิยมของผู้คนเปลี่ยนไป หลักสูตรลูกเสือมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงบ้าง
ย้อนไปหลายสิบปีก่อนหน้านี้ การเรียนลูกเสือจะมีหลักสูตรการสอนที่ทำให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริง มีทั้งการสอนปีนต้นไม้ การใช้กิ่งไม้จุดไฟเมื่ออยู่ในป่า การทำกับข้าว มีการตั้งแคมป์ เข้าค่าย เดินป่า แล้วก็มีการกำหนดให้ลูกเสือสามัญทำหน้าที่เป็นลูกเสือจราจร ให้ความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่คนใช้รถใช้ถนน แล้วก็มีการบำเพ็ญประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น ในอดีต หลายๆ โรงเรียนในกรุงเทพฯ ก็จะให้ลูกเสือ เนตรนารี ไปบำเพ็ญประโยชน์ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง คอยช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่ คอยช่วยขนสัมภาระ ขนข้าวขนของขึ้นรถไฟ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนที่มาใช้บริการ




น้อยนิดมหาศาลกับการเป็น ลูกเสือ

ในบ้านเราวิชาลูกเสือเมื่อก่อนเคยเป็นอย่างไร ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ขณะที่ลูกเสือในประเทศอื่น ต่างก้าวล้ำในความเป็นลูกเสือและให้ความสำคัญกับมัน โดยเฉพาะการปรับตัวของเด็กๆ และหลักสูตรที่จะนำลูกเสือไปสู่ความร่วมสมัยของสังคมและเทคโนโลยีของเด็กๆ ที่ก้าวไกลไปมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ ที่เกี่ยวพันกับบรรดาเด็กๆ ที่เรียนลูกเสือโดยตรง
แม้แต่ในโลกภาพยนตร์ยังดึงเอาความเป็นลูกเสือ มาใช้ในการดำเนินเรื่องเพื่อให้เกิดเรื่องราว เช่น อัพ ปู่ซ่าบ้าพลัง’ (UP) ที่ตัวละครเด็กรูปร่างอ้วนกลมนามว่า รัสเซลซึ่งเป็นลูกเสือวัย 9 ขวบ ต้องใช้ความพยายามในการที่จะได้ตราสัญลักษณ์ที่ให้ความช่วยเหลือคนชรา จึงจะทำให้เขากลายเป็นลูกเสือที่ครบสมบูรณ์แบบและได้ขึ้นรับตราสัญลักษณ์ครบตามกำหนด และความพยายามของลูกเสือ นักผจญภัยคนนี้ก็เกิดเป็นเรื่องราวให้น่าติดตามในภาพยนตร์เรื่อง อัพ
ปกติแล้วเหล่าลูกเสือทั่วโลก ที่สามารถก่อตั้งเต็นท์ได้, ผูกเงื่อนได้ และเดินทางไกลประสบความสำเร็จจะมีตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสำเร็จดังกล่าวติดประทับอยู่บริเวณแขนเสื้อ ลูกเสืออเมริกาก้าวล้ำกว่าชาติไหนๆ เพราะจะเพิ่มอีกหนึ่งความสำเร็จเข้าไป เป็นความสามารถในด้าน วิดีโอเกมลูกเสืออเมริกาคนไหนที่ต้องการจะได้ที่ล็อกเข็มขัด หรืออาร์มตราเชิดชูเกียรติความสามารถด้านวิดีโอเกม จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับระบบการจัดเรตติ้งเกม สามารถแบ่งเวลาในการเล่นเกมกับการทำประโยชน์ในชีวิตด้านอื่นๆ ได้ นอกจากนั้นยังต้องมีความเข้าใจในการเล่นเกมและสามารถอธิบายให้ความรู้กับผู้ปกครองได้

ขอบพระคุณข้อมูลจาก สโมสรลูกเสืออาสาไท

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรามารู้จักท่านผู้ก็กำเนิดลูกเสือโลกกัน

ผู้ก่อตั้งลูกเสือโลก คือ ลอร์ดเบเดนโพเอลล์( บี.พี. ) ชาวอังกฤษ ( เกิด 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2400)



วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กฎและคำฏิญาณของลูกเสือที่ทุกคนไม่เคยรู้

                  คำปฏิญาณของลูกเสือไม่มีคำว่า "อย่า" หรือ "ต้อง" คือไม่มีการห้ามหรือบังคับแต่เป็นคำปฏิญาณ
หรือคำมั่นสัญญาที่ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาได้้กล่าวรับรองด้วยเกียรติของตนเอง และด้วยความสมัครใจ ส่วน
กฎของลูกเสือได้กำหนดไว้เป็นกลาง เพื่อให้ลูกเสือถือเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และโดยผู้บังคับบัญชา
ลูกเสือจะต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎของลูกเสือเป็นพิเศษ เพื่อบำเพ็ญตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกเสือ
คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ทำให้้ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รู้จักบำเพ็ญ
ประโยชน์แก่ผู้อื่น มีระเบียบวินัย อยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม และไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากใด ๆ ในบ้านเมือง 
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าการลูกเสือเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติคำว่า 
"
ปฏิญาณ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานแปลว่า "การให้คำมั่นโดยสุจริตใจ"ลูกเสือจะต้องสำนึกว่า 
เขากล่าวคำปฏิญาณด้วยความสมัครใจของเขาเอง อนึ่ง เขาจะต้องเข้าใจด้วยว่า ผู้จะเรียกได้ว่าเป็น "คนจริง" 
เพื่อให้ผู้อื่นนับถือหรือเชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นผู้รักษาคำพูด โดยเฉพาะที่เป็นคำปฏิญาณหรือคำมั่นสัญญาของ
ตนกล่าวคือ ข้าสัญญาว่าจะทำอย่างไรแล้วต้องทำเหมือนปากพูดทุกอย่าง ดังคำปฏิญาณที่กล่าวว่า
               ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า

               
ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
               
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
               
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

               
จากคำปฏิญาณข้อที่ ๑ นั้น แสดงให้เห็นว่าลูกเสือมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

              
 ก. หน้าที่ต่อชาติ
               
ชาติไทย คือ แผ่นดินและน่านน้ำที่รวมกันเรียกว่าประเทศไทย ประกอบด้วยประชาชนพลเมืองที่
รวมกันเรียกว่าคนไทย ธงชาติ เป็นเครื่องหมายแทนชาติ ฉะนั้น ธงชาติจึงเป็นสิ่งที่ควรแก่การเคารพเป็นหน้าที่
ของลูกเสือทุกคน จะต้องแสดงความเคารพในโอกาสที่ชักธงขึ้นสู่ยอดเสา และเวลาชักธงลงจากยอดเสาพิธี
ชักธงชาติขึ้นสู่เสา หรือชักธงลงจากเสานี้ เป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของลูกเสือซึ่งจะต้องกระทำด้วยความเป็น
ระเบียบเรียบร้อย ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ชักธงลงควรถือว่าเป็นเกียรติที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานนี้ และจะต้อง
ระมัดระวังไม่ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของธงสัมผัสกับพื้นดินเป็นอันขาด ลูกเสือไม่ควรกระทำการใด ๆ ในอันที่จะ
นำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่เกียรติของธงชาติ เช่น นำผืนธงไปปูพื้นเช็ดส่งของ หรือเหยียบย่ำ และกองไว้
แทบเท้า ธงชาติไทยเรียกว่า "ธงไตรรงค์" แปลว่า ธงสามสี ลูกเสือควรจะทราบด้วยว่าแต่ละสีมีความหมาย
อย่างไร สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของธงชาติไทยคือ"เพลงชาติ" ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาลูกเสือทุกคนจะต้อง
สามารถร้องเพลงชาติได้อย่างถูกต้อง

              
 ข. หน้าที่ต่อศาสนา
               
ลูกเสือจะนับถือศาสนาใด ๆ ก็ได้ เพราะทุกศาสนาก็มีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือให้ให้บุคคล
เป็นคนดี ได้แก่ การละเว้นความชั่ว กระทำแต่ความดี และทำใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์

               
ค. หน้าที่ต่อประมหากษัตริย์
               
ผู้กำกับลูกเสือพึงหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้ลูกเสือสนใจในพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์
โดยเน้นถึงเวลาที่พระองค์ทรงอุทิศให้แก่บ้านเมือง และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนประชาชนใน
ท้องถิ่นต่าง ๆทั่วราชอาณาจักรพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ เป็นที่รวมแห่งความเคารพสักการะและ
ความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ นอกจากนั้น พระองค์ทรงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติด้วย

               
 ง. การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
                
การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นหลักการสำคัญประการหนึ่งของลูกเสือและเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้
การลูกเสือมีชื่อเสียง ได้รับการยกย่องจากประชาชนโดยทั่วไปแหล่งหรือโอกาสที่ลูกเสือจะบำเพ็ญประโยชน์
นั้นควรเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวเด็กก่อนแล้วขยายออกไปตามวัยและความสามารถของเด็ก กล่าวคือ
               
๑. บ้านของลูกเสือ ควรส่งเสริมให้เด็กทำงานในบ้านหรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว เพื่อเป็น
การเพาะนิสัยที่ดีให้แก่เด็ก
               
๒. โรงเรียนหรือที่ตั้งกองลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือควรส่งเสริมให้เด็กได้ทำงานเป็นประโยชน
์ต่อเพื่อน ต่อห้องเรียน ต่อโรงเรียนให้มากที่สุด โดยสอนให้ลูกเสือตระหนักว่างานเป็นสิ่งที่มีเกียรติ งานเท่านั้น
เป็นเครื่องวัดคุณค่าของคน

               กฎของลูกเสือ
                         
ข้อ ๑ ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
                         
ข้อ ๒ ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
                         
ข้อ ๓ ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
                         
ข้อ ๔ ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
                         
ข้อ ๕ ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
                         
ข้อ ๖ ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
                         
ข้อ ๗ ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
                         
ข้อ ๘ ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
                         
ข้อ ๙ ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
                         
ข้อ ๑๐ ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ

               
กฎของลูกเสือ ข้อ ๑๐ นี้ ได้ดัดแปลงมาจากกฎของลูกเสือข้อ ๑๐ ตามธรรมนูญของสมัชชา
ลูกเสือโลกที่ว่า "ลูกเสือเป็นผู้สะอาดในทางความคิด วาจา และกระกระทำ"

               
ข้อ ๑. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
               
ลูกเสือที่แท้จริงถือว่าเกียรติของเขาสำคัญกว่าสิ่งใด เกียรติของเขาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่รู้จักรักษา
เกียรติเป็นผู้เชื่อถือได้เสมอ เขาจะไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เสียเกียรติ เช่น พูดเท็จกับผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้าง 
หรือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา และเขาจะทำตัวให้เป็นที่นับถือของคนทั่วไป ในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ 
ท่านต้องไม่ยอมให้สิ่งที่ยั่วยวนใจ ไม่ว่าจะลึกลับหรือรุนแรงเพียงไรมาชักจูงให้ท่านกระทำการใด ๆ ที่ไม่สุจริต 
หรือเป็นที่น่าสงสัย ท่านจะไม่ละเมิดคำมั่นสัญญาเป็นอันขาด

               
ข้อ ๒. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
               
ในฐานะเป็นพลเมืองดี ท่านจะต้องระลึกเสมอว่าท่านเป็นคนหนึ่งในคณะ หรือเป็นอิฐก้อนหนึ่งใน
กำแพง ท่านจะต้องทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุด และซื่อตรงกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง 
นายจ้างของท่าน ท่านจะต้องไม่ทำลายเกียรติของท่านด้วยการเล่นไม่ซื่อ นอกจากนั้น ท่านต้องไม่ทำให้ผู้ที่
ไว้วางใจท่าน ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องผิดหวัง บรรพบุรุษของท่านได้ทำงานด้วยความเข้มแข็ง รบด้วยความ
ทรหด และตายด้วยความองอาจ เพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ให้ท่าน ขออย่าให้บรรพบุรุษของท่านมองลงมาจาก
สวรรค์แลเห็นท่านเที่ยวเตร่ เอามือใส่กระเป๋าโดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อบ้านเมืองเลย 

               
ข้อ ๓. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
               
ลูกเสือจะพยายามให้ความเมตตากรุณา เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนอยู่เสมอ ความคิดเห็น
ของเขามีว่าคนทุกคนต้องตาย แต่ท่านควรจะทำใจของท่านว่าก่อนเวลาจากโลกนี้ไปตามวิถีทางของธรรมชาติ
ท่านควรจะทำ ความดีบ้าง ฉะนั้น จงทำทันที เพราะท่านไม่รู้เลยว่าเมื่อใดท่านจะต้องล่วงลับไป

               
ข้อ ๔. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
               
ในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะต้องยอมรับรู้ว่าคนอื่นเป็นเพื่อนมนุษย์ และท่านต้องไม่รังเกียจ
ความแตกต่างในเรื่องขาดความคิด วรรณะ ศาสนา หรือชาติบ้านเมือง ท่านต้องขจัดอคติของท่านและมองหา
จุดดีของคนอื่น ส่วนจุดชั่วนั้นคนโง่ก็ย่อมวิจารณ์ได้ ถ้าท่านแสดงไมตรีจิตต่อคนชาติอื่นได้เช่นนี้ก็นับว่าท่านได้
ช่วยก่อให้เกิดสันติภาพและไมตรีจิตระหว่างประเทศและมวลมนุษย์ชาติได้

               
ข้อ ๕. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
               
ในฐานะที่ท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะต้องสุภาพและคำนึงถึงผู้หญิง คนแก่ เด็กและบุคคลทั่ว ๆ 
ไป แต่ยิ่งกว่านั้น ท่านจะต้องสุภาพต่อฝ่ายตรงข้ามกับท่านด้วย รวมความว่า ท่านจะต้องเป็นสุภาพบุรุษ คือผู้
ปฏิบัติตามกฎแห่งการบำเพ็ญประโยชน์ของลูกเสือ

               
ข้อ ๖. ลูกเสือมีความเมตรากรุณาต่อสัตว์
               
สัตว์ทั้งหลาย มีความรักและหวงแหนชีวิตของตนยิ่งกว่าสิ่งใด ต่างก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด 
และปลอดภัยจากอันตราย ทุกชีวิตปรารถนาความสุข ความรัก ความอบอุ่น และการช่วยเหลือเกื้อกูล แต่เกลียด
กลัวและหวาดระแวงต่อการล่วงเกิน เบียดเบียน และทำร้าย ภาระกิจสำคัญที่สุดของลูกเสือวิสามัญ คือการช่วย
เหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ และการบริการผู้อื่นให้ได้รับความสุข ดังนั้น ลูกเสือวิสามัญทุกคน จึงควรเป็นผู้
ที่มีความรักและความเมตตากรุณาต่อสัตว์ด้วย

               
ข้อ ๗. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
               
ในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านย่อมบังคับตนเองและเต็มใจเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ ครู อาจารย์ 
นายหมู่ และผู้กำกับลูกเสือ โดยชอบด้วยเหตุผล ไม่มีการโต้แย้ง ชุมชนที่มีวินัยดีเป็นชุมชนที่มีความสุขที่สุด 
แต่วินัยต้องเกิดมาจากภายใน มิใช่ถูกบังคับจากภายนอก ดังนั้น การปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นจึงเป็นสิ่ง
ที่มีคุณค่ามาก

               
ข้อ ๘. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความลำบาก
               
ในฐานะเป็นลูกเสือวิสามัญ คนอื่น ๆ จะคอยมองดูท่านและคิดอยู่เสมอว่าท่านคงจะไม่หัวเสียและ
จะยืนหยัดต่อสู้ด้วยความเข้มแข็งและร่าเริง อดทนในเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

               
ข้อ ๙. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
               
ในฐานะท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะมองไปข้างหน้าและจะไม่ยอมเสียเวลาหรือเสียเงินสำหรับ
ความสุขสำราญในปัจจุบัน แต่จะใช้โอกาสนั้น เพื่อให้ได้บรรลุความสำเร็จในหน้าที่ที่ท่านกระทำทั้งนี้เพื่อว่าจะ
ได้ไม่ต้องเป็นภาระแก่ผู้อื่น แต่กลับจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย

               
ข้อ ๑๐. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
               
ในฐานะที่ท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านต้องมีใจสะอาด คิดแต่เรื่องที่เป็นมงคล สามารถควบคุมสต
ิและจิตใจของตนเองไม่ให้ฟุ้งซ่านใน รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส และของมันเมาจนเกินกว่าเหตุ ท่านต้องเป็นตัว
ของท่านเอง และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านคิด-พูด และกระทำโดยเฉพาะท่านควรมีสัมมา
อาชีวะ คือ ต้องมีอาชีพที่สุจริตเพื่อความสุขของตนเองและสังคม